Author Topic: [GNS3 ] How to use VPCS by Kati - Project [17/06/09]  (Read 21702 times)

0 Members และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

.....

  • Web Advisor
  • Layer 4
  • *****
  • Posts: 268
  • จิตพิสัย +18/-0
  • - Kati - Project -
[GNS3 ] How to use VPCS by Kati - Project [17/06/09]
« on: 17 มิถุนายน , 2009, 04:32:00 am »


   
   index
   
     - การติดตั้งและใช้งาน VPCS (เบื้องต้น)
     - ตัวอย่าง config ของ vpcs แบบ ง่ายๆ
     - การใช้งาน vpcs ร่วมกับหลายๆ project (ที่ใช้ ip ต่างกัน)
     - การใช้งาน vpcs ร่วมกับ dynamips/gns3 (แบบสั้นสุดๆ)



   memo

   เนื้อหาพวกนี้ผมเอามาจากต้นฉบับที่เขียนเขียนเอาไว้ที่บล๊อกของผมเอง ข้อมูลบางอย่างยังไม่ได้มีเวลาที่จะตรวจสอบ
   หรือแก้ไขแต่ที่เอามาโพสไว้ก่อน เพราะไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ผมจะมีเวลาเอามาโพสรึเปล่า แล้วก็ไม่รู้ว่าบล๊อกของผม
   มันจะอยู่ไปได้อีกนานแค่ไหน เพราะว่าผมไม่ค่อยได้ดูแลมันซักเท่าไหร่เลย (บางครั้งก็เลยปิดมันเอาไว้)

       Archive : http://archive.katiproject.info/category/index#pc-client-virtual-pc

   ปล.ยังไงถ้ามีความผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยไว้เพื่อนๆสมาชิกทุกท่านเอาไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ ... ^_^



« Last Edit: 06 ธันวาคม , 2010, 03:34:31 am by ..... »
... ขอให้ความรู้ทั้งหลายจงเป็นสมบัติของโลก ..
@ This Document is licensed under a Creative Commons Attribution-Noncommercial 3.0 Unported  @

.....

  • Web Advisor
  • Layer 4
  • *****
  • Posts: 268
  • จิตพิสัย +18/-0
  • - Kati - Project -
การติดตั้งและใช้งาน VPCS (เบื้องต้น)
« Reply #1 on: 17 มิถุนายน , 2009, 04:34:24 am »
[ต้นร่าง/รอการแก้ไข/ปรับปรุงเนื้อหา]

สำหรับผู้ที่ต้องการหา client ที่ดีๆ และใช้งานง่าย มาเชื่อมต่อกับ lab ที่เราสร้างขึ้นจาก dynamips และ gns3
ผมขอแนะนำให้ลองหาโปรแกรม vpcs มาใช้งานดู เพราะว่าเป็นโปรแกรมที่ใช้จำลอง client ที่ใช้งานง่าย และ
กินทรัพย์ยากรของระบบน้อยที่สุดเท่าที่เคยลองมา เพราะถ้าใช้พวก vmware หรือโปรแกรมอื่นๆ จะใช้เยอะกว่านี้
เพราะว่าจากนอกจากจะต้องติดตั้งตัว virtual pc แล้ว ก็ยังจะต้องมีการติดตั้ง os เอาไว้เพื่อใช้งานด้วย

สำหรับการใช้งานเป็น client สำหรับทำ lab เพื่อเตรียมสอบทั่วๆไป ผมว่า vpcs ก็ถือว่า ok แล้วนะครับ

 
  การ download ไฟล์ที่จำเป็น

     - ทำการดาวน์โหลด vpcs 1.6c  หรือ เวอร์ชั่นล่าสุด จากเว็บไซท์ของ vpcs
      ในตัวไฟล์ .zip นี้จะมี vpcs สำหรับทั้ง windows , linux และ mac osx มาให้แล้ว

     - สำหรับ vpcs ที่ใช้งานบน windows นั้น จะเป็นไฟล์ vpcs.exe ส่วนของ linux ก็จะเป็น
       ไฟล์ชื่อ vpcs หรือ vpcs_64 (ต้อง chmod ก่อน) และของ mac osx ก็จะเป็น vpcs.osx

   การติดตั้งและใช้งานเบื้องต้น

      - เมื่อดาวน์โหลดไฟล์มาได้แล้ว จะได้ไฟล์มาในรูปแบบที่เป็น .zip ไฟล์ จากนั้นให้ทำการ
        เปิดไฟล์นั้นแล้ว extract ไฟล์ข้างในออกมาใส่เอาไว้ใน folder (จะตั้งชื่อว่าอะไรก็ได้)

      - ก่อนจะใช้งาน ให้ทำการเปิดเข้าไปแก้ไขต่างๆในไฟล์ startup.vpc ซะก่อน สำหรับค่าต่างๆ
        ที่เราจะเข้าไปแก้ไข ก็ได้แก่ ค่าของ client ที่จะใช้งาน เช่น ip address , gatewat , mask

      - ในการเรียกใช้งาน vpcs สำหรับ windows ให้เรียกใช้งาน(ดับเบิ้ลคลิก) ที่ตัว vpcs.exe

      - เพื่อป้องกันปัญหาการขัดกันในเรื่องของ port หรือ ปัญหาอื่นๆ เราควรจะต้องทำการ
         เรียกใช้ vpcs ขึ้นมาทำงาน ก่อนที่จะเรียกใช้งาน dynamips หรือ gns3 ก่อนทุกครั้ง

     - การตรวจสอบคำสั่งต่างๆของ vpcs สามารถทำได้โดยพิมพ์คำสั่ง ? ลงไปแล้วกด enter


  คำสั่งในการใช้งาน (เบื้องต้น)

     - ในการเปิดใช้งาน vpcs ขึ้นมานั้น ระบบจะแสดงจำนวน client ที่ได้มีการสร้างเอาไว้
       และแจ้งข้อมูล ip , gateway และ subnet mask ของ client เหล่านั้นเอาไว้ด้วย

      - หากต้องการตรวจสอบข้อมูลต่างๆของ client ใน vpcs เช่น ip address , gateway
        subnet mask , mac และค่าต่างๆเกี่ยวกับ port ให้เราใช้คำสั่ง show เพื่อดูค่า

     - การเลือกว่าจะใช้งาน client ตัวไหน ใช้การพิมพ์หมายเลข ของ client ตัวนั้นลงไป
       เช่น ถ้าเราต้องการจะใช้งาน pc1 เราก็พิมพ์ 1 ลงไปใน ถ้าจะใช้ pc2 ก็พิมพ์ 2 ลงไป

       เราสามารถตรวจสอบว่าเรากำลังใช้งาน pc ตัวไหนอยู่ ด้วยการดูที่ prompt ที่ vpcs แสดง
       ถ้าหาก prompt เขียนว่า VPCS 1> ก็คือว่าเราอยู่ที่ pc1 ถ้าขึ้นว่า VPCS 2> ก็คือ pc2

     - เราสามารถใช้งาน tracert และ ping ได้ โดยรูปแบบการใช้งานก็คือ พิมพ์คำว่า ping
       หรือ tracert แล้วตามด้วย ip ของ client หรือ ip ของอุปกรณ์ ที่เราต้องการ

     - คำสั่ง tracert ใน vpcs สามารถตั้งค่า max hop ได้ ว่าเราต้องการจะให้ทำการ tracert
       ไปกี่ hop โดยใช้คำสั่ง tracert แล้วตามด้วย ip จากนั้นก็ใส่ค่า max hop ที่ต้องการลงไป
        สำหรับค่า max hop ตาม default ของ vpcs นั้น จะมีค่าอยู่ที่ 16 hop


  ค่าเกี่ยวกับ ip address ของ vpcs
 
     - การตั้งค่า ip address ใน vpcs นั้น รองรับทั้ง ip ในระบบ ipv4 และ ipv6 นอกจากนี้
       เรายังสามารถจะตั้ง ip ให้กับ client โดยตรง หรือจะให้ client รับ ip จาก dhcp ก็ได้
   
     - การตั้งค่า ip address ของ client ใน vpcs สามารถทำได้ 2 วิธี วิธีแรกโดยทำได้โดย
       เข้าไปแก้ไขในไฟล์ startup.vpc ส่วนอีกวิธีก็คือเข้าไปพิมพ์คำสั่งเพื่อตั้งค่าหลังจากเรา
       ทำการเรียกใช้งาน vpcs ขึ้นมาแล้ว (ไปที่ client ที่ต้องการแล้วพิมพ์คำสั่งเพื่อตั้งค่า)

    - ในการแก้ไขไฟล์ startup.vpc นั้น ถ้าหากเราอยากจะแก้ไขค่า ip ของ client ตัวไหน
      ก็ให้ไปแก้ในช่วงที่มีการ remark เอาไว้ว่าเป็นส่วนของ client ตัวนั้น ถ้าหากว่ายังไม่มี
      ข้อมูลของ client ตัวที่ต้องการอยู่ในไฟล์คอนฟิกเลย เราก็สามารถสร้างขึ้นมาเองได้
      โดยใส่ตัวเลขของ client ตัวที่ต้องการลงไป แล้วบรรทัดต่อไปก็ใส่คำสั่งในการตั้ง ip

    - คำสั่งในการสั่งให้ client รับค่า ip จาก dhcp ก็คือคำสั่ง dhcp (ไม่มีพารามิเตอร์อะไรต่อ)

    - คำสั่งในการแก้ไขค่า ip address ของ client ก็คือ ip แล้วตามด้วยค่าต่างๆดังนี้
 
          ip <ip address> <gateway> <subnetmask แบบย่อๆ>
 
    - การตั้งค่า ip address ของ client ใน vpcs จะต้องตั้ง ip ให้อยู่ใน network เดียวกัน
      กับ interface ของอุปกรณ์ที่เราทำการเชื่อมต่ออยู่ เพื่อจะได้สามารถติดต่อกันได้ …

    - ค่า subnet mask ที่ใช้ ก็จะต้องเป็นค่าเดียวกันด้วย เช่น ถ้า interface นั้นใช้ค่าเป็น
      255.255.255.0 เราก็ต้องใช้ค่าเป็น /24  ถ้าใช้เป็น 255.255.0.0 ก็ต้องใช้เป็น /16
      ถ้าเป็น 255.0.0.0 ก็เป็น /8 แต่ถ้ามีการแบ่ง subnet ลงไปอีก ก็ต้องใช้ค่าให้ถูกต้อง
 
    - ค่าของ gateway ที่เราจะใช้นั้น จริงๆแล้วก็คือการตั้งค่า default gateway นั่นเอง
      ค่านี้เอาไว้ใช้เวลาที่ client ต้องการจะติดต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ ip ต่าง network กัน

      สำหรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใน lab ให้เราก็ตั้ง gateway ของ client ตาม ip ของ
      interface ที่ client ตัวนั้นเชื่อมต่ออยู่ เช่น ชี้มาที่ ip ของ lan interface ของ router


  ค่าเกี่ยวกับ port ของ vpcs

      - client หรือ pc ต่างๆใน vpcs จะมีค่า port ที่ใช้ในการติดต่อเป็นของตัวเอง โดยไม่ซ้ำกัน
        ถ้าหากเราต้องการจะติดต่อกับ pc ตัวไหน ก็ต้องใช้ค่า port ในการติดต่อของ pc ตัวนั้น

      - ค่าเริ่มต้นเกี่ยวกับ port ของ vpcs จะมีการตั้งค่า default เอาไว้เป็นค่าคงที่  โดยที่
        client ตัวแรก หรือ pc1 จะมีค่า LPORT เริ่มต้นที่ 20000 / RPORT เริ่มต้นที่ 30000
        ส่วนตัวอื่นๆ ก็จะมีค่า LPORT , RPORT เพิ่มไปทีละ 1 ตามลำดับ (เป็น udp port)
       
      - ค่า LPORT นั้น หมายถึง port ที่ vpcs เปิดเอาไว้รอการติดต่อจาก dynamips / gns3
        ค่า RPORT นั้น หมายถึง port ที่ dynamips / gns3 เปิดเอาไว้รอการติดต่อจาก vpcs

     - การนำค่า LPORT,RPORT ไปใช้กับ dynamips/gns3 บน windows นั้น ต้องนำไปใช้งาน
       ร่วมกับ nio_udp แต่ถ้าเราใช้งาน vpcs บน linux เราสามารถใช้งานร่วมกับ nio_tap ได้ด้วย


    ปัญหาเบื้องต้นในการใช้งาน

     -  หากต้องการนำ vpcs ไปใช้งานร่วมกับ dynamips หรือ gns3 ในบางครั้งก็อาจจะ
        พบปัญหาในเรื่องการขัดกันของ cygwin1.dll ที่ dynamips หรือ gns3 ใช้งานอยู่

        ให้ทำการ rename ไฟล์ cygwin.dll ของ dynamips และ gns3 ให้เป็น .bak ไปก่อน
        แล้วจากนั้นให้ทำการ copy ไฟล์ cygwin1.dll ที่ vpcs ใช้งานอยู่ ไปใส่เอาไว้แทน

        ไฟล์ cygwin1.dll ของ dynamips นั้นจะเก็บอยู่ที่ \Program Files\Dynamips
         ส่วน cygwin1.dll ของ gns3 นั้นจะอยู่ที่ \Program Files\GNS3\Dynamips
       
      - ถ้าหากว่าเราเรียกใช้งาน vpcs ร่วมกับ dynamips หรือ gns3 แล้วมีการแจ้งว่ามีปัญหา
        ในการเปิด port ให้ทำการปิด vpcs และ dynamips หรือ gns3 จากนั้น ให้เราทำการ
        เรียกใช้งาน vpcs ขึ้นมาก่อน แล้วจึงเปิดใช้งาน dynamips หรือ gns3

      - การตรวจสอบว่า vpcs มีการเปิด port ใช้งานเรียบร้อยแล้วหรือไม่ ให้ใช้คำสั่ง netstat -na
        แล้วดูค่าในส่วนที่เป็น udp ถ้า vpcs มีการทำงานถูกต้อง จะมีการแจ้งว่ามีการเปิด udp port
        ขึ้นมาใช้งาน ตั้งแต่ port หมายเลข 20000 ถึง 20008 (รวมทั้งหมด 9 pc)

(http://katiproject.info/pc-client-virtual-pc/instalatio-vpcs-for-windows)

ปล.เนื้อหาในส่วนนี้ผมยังเขียนเอาไว้เป็นหัวข้อๆแยกกันเอาไว้ก่อน ยังไม่มีเวลาปรับให้เป็นเนื้อหาให้เข้าที่
ข้อมูลในนี้ก็เลยออกจะดูห้วนๆไปนิด เอาไว้ถ้าผมพอจะมีเวลา ก็คงจะได้ปรับแก้เนื้อหาให้อ่านง่ายขึ้นนะครับ
« Last Edit: 10 พฤศจิกายน , 2009, 11:49:38 pm by = Aegis = »
... ขอให้ความรู้ทั้งหลายจงเป็นสมบัติของโลก ..
@ This Document is licensed under a Creative Commons Attribution-Noncommercial 3.0 Unported  @

.....

  • Web Advisor
  • Layer 4
  • *****
  • Posts: 268
  • จิตพิสัย +18/-0
  • - Kati - Project -
ตัวอย่าง config ของ vpcs แบบ ง่ายๆ
« Reply #2 on: 17 มิถุนายน , 2009, 04:38:04 am »
[รอการตรวจสอบ/แก้ไข]

ตัวอย่างไฟล์ config ใน startup.vpc แบบ ง่ายๆ (ในกรณีที่ใช้ pc 2 ตัว)

# The startup file of VPC
#
# pc1
1
ip 10.0.0.2 10.0.0.1 24
#ip 8.0.0.2 8.0.0.1 24

# pc2
2
ip 172.0.0.2 172.0.0.1 24
#ip 192.168.1.2 192.168.1.1 24
#ip 10.1.1.2 10.1.1.1 24

# switch to PC1
1

คำอธิบาย

ตัวเลข 1 และ 2 ในคอนฟิกนั้น เป็นการบอกว่า ให้ไปที่ client ตัวไหน ส่วนข้อความหลังจากนี้ เช่นคำสั่ง
ที่เขียนว่า ip นั้น ก็จะเป็นข้อมูลที่เอาไว้กำหนดค่าเกี่ยวกับ ip address ของ client ตัวนั้นๆ ซึ่งคำสั่ง ip นี้
จะตามด้วย ip address , gateway และ subnetmask แบบย่อๆ (เราสามารถแก้ไขได้เองเลย)

      ip <ip address> <gateway> <mask แบบย่อๆ>

ส่วนข้อมูลอื่นๆที่อยู่ในไฟล์ ที่ถูกทำเครื่องหมาย # หรือ ! เอาไว้นั้น จะเป็นส่วนของ remark ซึ่ง vpcs
จะไม่สนใจข้อมูลที่มีการ remark เอาไว้เลย (เราสามารถเพิ่ม remark ลงไปในไฟล์ได้ตามใจชอบเลย)

จากตัวอย่างจะเห็นว่ามีการใช้คำสั่งเพื่อตั้งค่า ip ให้กับ client ต่างๆอยู่ 2-3ตัว แต่ว่า ip ที่ตั้งเอาไว้เหล่านั้น
ผมได้มีการ remark เอาไว้เหลือใช้แค่ client ละคำสั่งเท่านั้น ทั้งนี้ก็เพราะว่าบางครั้งการใช้งาน vpcs อาจจะ
ต้องใช้งานร่วมกับไฟล์ lab หลายๆแบบ ซึ่งถ้า lab แต่ละอันมีการใช้งาน ip ที่ไม่เหมือนกัน เราก็จะต้องทำการ
ตั้งค่า ip ใหม่ ทุกครั้งที่ต้องการจะใช้งานก็คงจะทำให้เราไม่สะดวกนัก

ดังนั้นการตั้งค่า ip ที่มีเคยการใช้งานเอาไว้ แล้ว remark ตัวที่ไม่ได้ใช้ ก็เป็นทางออกนึงที่ทำให้เราสะดวกขึ้นครับ
นอกจากนี้ ถ้าหากต้องการให้ client รับ ip จาก dhcp ก็ให้ใส่คำว่า dhcp ลงไปแทนคำสั่ง ip และค่าต่างๆทั้งหมด

(http://katiproject.info/pc-client-virtual-pc/vpcs-basic-config)
« Last Edit: 10 พฤศจิกายน , 2009, 11:50:17 pm by = Aegis = »
... ขอให้ความรู้ทั้งหลายจงเป็นสมบัติของโลก ..
@ This Document is licensed under a Creative Commons Attribution-Noncommercial 3.0 Unported  @

.....

  • Web Advisor
  • Layer 4
  • *****
  • Posts: 268
  • จิตพิสัย +18/-0
  • - Kati - Project -
[รอการตรวจสอบ/แก้ไข]

ถ้าหากว่าเรามี project อยู่หลายอัน ซึ่งจะต้องใช้งานร่วมกับ vpcs แต่ว่า project ต่างๆนั้น มีการใช้งานพวก ip
ที่ไม่เหมือนกันเลย การที่เราจะต้องมาทำการตั้งค่า ip ให้กับ vpcs ทุกๆครั้งเวลาจะใช้งานร่วมกับ project ต่างๆ
ก็คงจะเป็นเรื่องที่น่าเบื่ออยู่เหมือนกัน สำหรับวิธีง่ายๆในการแก้ปัญหาในเรื่องนี้นั้น มีอยู่ 2-3 วิธีด้วยกัน ก็คือ ...

 1.ทำการสร้าง startup.vpc สำหรับแต่ละ project แยกกันเลย โดยอันที่ไม่ได้ใช้ ก็ให้ rename เอาไว้
    ให้เป็นนามสกุลอื่น เช่น .vpc1 , .vpc2 ฯลฯ แล้วถ้าจะใช้งานอันไหน ก็ค่อยเปลี่ยนกลับมาเป็น .vpc

 2.ถ้าเราทำไฟล์ .vpc เอาไว้หลายอัน แล้วอยากจะให้ vpcs เรียกไฟล์เหล่านั้นมาใช้งาน ก็สามารถทำได้
    โดยใช้คำสั่ง vpcs -r  แล้วตามด้วยชื่อไฟล์ที่ต้องการ เช่น ผมทำไฟล์ชื่อ project10.vpc เอาไว้แล้ว และ
    ผมอยากเรียกมาใช้งาน ถ้า vpcs ของผมอยู่ที่ c:\vpcs\ ผมก็เข้าไปที่ command prompt หรือไปที่ run
    แล้วพิมพ์ว่า c:\vpcs\vpcs -r project10.vpc ก็ใช้ได้แล้วครับ

 3.ทำการเพิ่มข้อมูล ip ให้กับ pc ต่างๆลงไปตามที่ต้องการ แล้วอันไหนไม่ได้ใช้งาน ก็ให้ทำการใส่ # เอาไว้
    เพื่อทำการ remark ข้อมูลตรงนั้นเอาไว้ไม่ให้ vpcs เรียกใช้งาน (ไม่ว่าจะเราจะทำการตั้งเอาไว้กี่ ip ก็ตาม)

      # pc1
      1                       
      ip 10.0.0.2 10.0.0.1 24   
      #ip 8.0.0.2 8.0.0.1 24    <----- ip หรือ พารามิเตอร์ต่างๆที่ไม่ใช้จะ remark เอาไว้
      #ip 11.0.0.2 11.0.0.1 24

      # pc2
      2                       
      ip 172.0.0.2 172.0.0.1 24
      #ip 192.168.1.2 192.168.1.1 24
      #ip 10.1.1.2 10.1.1.1 24

การใส่ remark นั้น ทำให้เราสามารถใส่ข้อมูลอื่นๆ เช่น note ที่บอกว่าเป็น ip ของ project ไหน รวมทั้ง
ข้อมูลต่างๆลงไปได้อีก ซึ่งหากเราต้องการจะใช้งาน ip อันไหน ก็ให้เอา remark เฉพาะตรง ip ออกก็พอ

(http://katiproject.info/pc-client-virtual-pc/how-to-use-vpcs-with-dynamips-gns3)
« Last Edit: 10 พฤศจิกายน , 2009, 11:50:49 pm by = Aegis = »
... ขอให้ความรู้ทั้งหลายจงเป็นสมบัติของโลก ..
@ This Document is licensed under a Creative Commons Attribution-Noncommercial 3.0 Unported  @

.....

  • Web Advisor
  • Layer 4
  • *****
  • Posts: 268
  • จิตพิสัย +18/-0
  • - Kati - Project -
[รอการตรวจสอบ/แก้ไข]

  ปรกติแล้วการใช้งาน vpcs ร่วมกับ gns3 หรือ dynamips นั้น จะต้องทำการเชื่อมต่อกันผ่าน nio_udp
  รูปแบบการทำงานปรกติของค่า nio_udp นั้น ก็จะประกอบด้วยพารามิเตอร์ต่างๆ 3 ตัวด้วยกัน ซึ่งก็คือ
  ค่าของ local_port , remote_host , remote_port  ซึ่งรูปแบบเวลาเขียนออกมาจะเป็นดังนี้ ...

       NIO_udp:local_port:remote_host:remote_port

    ความหมายของค่าพารามิเตอร์ต่างๆ

      – local_port หมายถึง port ที่ dynamips/gns3 เปิดรอเอาไว้รับการติดต่อ
      – remote_host หมายถึง  ip ของ host ปลายทาง ที่ต้องการจะใช้ติดต่อด้วย
      – remote_port หมายถึง port ของ ปลายทาง ที่เราต้องการจะไปติดต่อด้วย

  การใช้งาน vpcs ร่วมกับ dynamips

  การใช้งาน vpcs ร่วมกับ dynamips/dynagen นั้น ให้เราทำการเปิดเข้าไปในไฟล์ .net ที่ต้องการ
  ด้วย text editor จากนั้นถ้าเราต้องการจะให้ client ของ vpcs อันไหน เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ ก็ให้เอา
  ค่า RPORT , LPORT ของ client ตัวนั้น ไปใส่ใน nio_udp แล้วเอาไปไว้ที่ interface ที่ต้องการ

  สำหรับรูปแบบของ Nio_udp ที่เราจะสร้างขึ้นนั้น จะอยู่ในรูปแบบดังนี้

         NIO_udp:RPORT:127.0.0.1:LPORT

   ถ้าต้องการให้ f1/0 เชื่อมต่อกับ pc1 ซึ่งมี RPORT = 30000 / LPORT = 20000 ก็จะต้องเขียนว่า

        [[ROUTER R1]]

        f1/0 = NIO_udp:30000:127.0.0.1:20000


    หรือ ถ้าเราต้องการจะเชื่อมต่อ pc1 เข้ากับ switch ก่อน แล้วจึงเชื่อมต่อ switch กับ f1/0
    ก็ให้เพิ่มค่าในส่วนของ switch และ router ลงไปตามนี้

        [[ROUTER R1]]

        f1/0 = SW1 1

        [[ethsw SW1]]

        1 = access 1 NIO_udp:30000:127.0.0.1:20000



    (คอนฟิกนี้เป็นการเชื่อมต่อ pc1 เข้ากับ SW1 ที่ port1 ก่อน แล้วค่อยต่อกับ f1/0 ของ router)

   
  การใช้งาน vpcs ร่วมกับ gns3

  การใช้งาน vpcs ร่วมกับ gns3 นั้น เราจะต้องสร้าง cloud ขึ้นมาก่อน จากนั้น เข้าไปตั้งค่าในส่วนที่
  เป็น nio_udp ซะก่อน จากนั้นจึงนำไปทำการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ ซึ่งการตั้งค่า nio_udp ตั้งค่าดังนี้

       - ให้เอาค่า LPORT ของ vpcs ไปใส่ไว้ในช่อง remote port
       - ให้เอาค่า RPORT ของ vpcs ไปใส่ไว้ในช่อง local port
       - ค่าของ remote host ให้ใส่เป็น 127.0.0.1 เพราะว่าเรารัน vpcs ที่เครื่องเรา

  หลังจากตั้งค่าเรียบร้อยแล้ว ก็ให้กด add เพื่อเพิ่มค่านี้ลงไปใน cloud จากนั้นกด ok


memo (http://katiproject.info/pc-client-virtual-pc/use-vpcs-with-multi-project-different-ip)

ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับการใช้งาน vpcs กับ dynamips และ gns3 แบบละเอียดๆนั้น ผมเคยได้เขียนแยกเอาไว้
เป็นบทความย่อย ในส่วนของบทความ dynamips และ gns3 ถ้าหากว่าใครสนใจก็สามารถไปอ่านเพิ่มเติมได้
จากบทความเก่าๆเรื่อง การเชื่อมต่อ dynamips กับ vpcs และ การเชื่อมต่อ gns3 กับ vpcs
« Last Edit: 10 พฤศจิกายน , 2009, 11:51:20 pm by = Aegis = »
... ขอให้ความรู้ทั้งหลายจงเป็นสมบัติของโลก ..
@ This Document is licensed under a Creative Commons Attribution-Noncommercial 3.0 Unported  @